คนไหนกันที่ชอบเรื่องผีหรือเรื่องสยองขวัญของประเทศญี่ปุ่น ก็น่าจะเคยอ่านเรื่องราวของ ฮาที่นาโกะซัง มาบ้าง เป็นผีเด็กสาวใส่กระโปรงสีแดงที่จะแอบอยู่ข้างในห้องน้ำสถานที่เรียนแล้วก็โผล่มาหลอกให้คนตกใจกลัว เรื่องราวของฮาท้องนาโกะซังมีต้นเหตุมาจากตำนานเมืองตั้งแต่ช่วงปี 1950 แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีเรื่องราวของผีเด็กหญิงในสุขาตัวใหม่ให้ได้หลอนกันอีกแล้วค่ะ เธอมีชื่อว่า บุคิมิจัง
เรื่องผีที่ติดอันดับเข้ามาตลอด และก็เด็กไทยเองก็น่าจะรู้จักเช่นเดียวกัน สำหรับผีฮาท้องนาโกะที่อยู่อยู่ตามสุขา เล่ากันว่า หากเคาะประตูสุขาที่ชั้นสาม เคาะสามครั้งแล้วถามว่า “ฮาทุ่งนาโกะซังอยู่ไหม” หากมีเสียงตอบว่า “ไฮ่” ประตูก็จะเปิดออก รวมทั้งมีเด็กหญิงใส่กระโปรงสีแดงลากตัวเราไป สถานที่จะพบเห็นได้ต้องเป็นห้องสุขาเด็กผู้หญิงเวลาข้างหลังเลิกเรียน
ฮานาโกะนั้นเป็นเรื่องผีที่อาจมีรายละเอียดที่แตกต่างในในแต่ละสถานที่เรียนด้วย น่าจะเพื่ออัพเดทให้มีความน่าสยดสยองกับที่ตรงนั้นนั่นเอง ส่วนความเป็นมาของฮานาโกะนั้น เชื่อกันว่าเธอเป็นเด็กที่เสียชีวิตในช่วงสงครามโลก ในขณะที่มีเรือบินมาทิ้งระเบิด คุณได้หนีเข้าไปหลบในสุขา ผลก็คือเปลวไฟจากระเบิดครอกตายทั้งเป็น โน่นจึงทำให้ดวงวิญญาณของคุณจำต้องคอยเร่ร่อนไปๆมาๆในสุขา
“ผีห้องน้ำ” ฮาท้องนาโกะซัง (Hanako-san)วิญญาณเด็กสาวที่แต่งตัวด้วยเชิ้ตสีขาว กระโปรงเอี๊ยมสีแดง ผมบ๊อบสั้น ลักษณะซึ่งคล้าย “เมอร์เทิล” ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่รอสร้างความหลอนในสถานศึกษาเวทมนตร์ ซึ่งผีห้องอาบน้ำเป็น 1 ใน 7 เรื่องลี้ลับของสถานที่เรียนญี่ปุ่น ที่ “เฮี้ยน” และก็น่าสยองที่สุด!
ตำนานเมือง “ผีฮาที่นาโกะ” (ผีห้องอาบน้ำ) นับว่าเป็นเรื่องเล่าที่มีประวัติเป็นเวลานานกว่า 70 ปี ตั้งแต่ตอนสมัย คริสต์ศักราช1950 ถึงแม้ชื่อของเด็กหญิงจะฟังดูแล้วน่ารัก น่ารักน่าชัง แม้กระนั้นยังไง มันก็ขึ้นชื่อว่า “ผี” ที่สร้างความสยองขวัญ และก็ทำให้ผู้คนถึงแก่กรรม ทั้งยังเสียงที่หลอกหู และเมื่อคนใดกันแน่ได้ยิน จะก่อให้เป็นไข้ หรือจะมาในแบบโผล่มาเพียงแค่มือ โผล่มาตลอดตัว แล้วลากเหยื่อลงนรก
หนึ่งในเรื่องราวที่คนพูดถึงหลายครั้งที่สุดบอกไว้ว่า “ผีห้องอาบน้ำ” มีต้นกำเนิดจากตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 บ้างก็ว่าเธอได้เล่นซ่อนหากับสหาย หรือวิ่งหนีเรือบินทิ้งระเบิดจากอเมริกา แล้วไปหลบซ่อนที่ห้องน้ำโรงเรียน แต่ว่าแล้ว เรือบินก็ทิ้งระเบิดลงในสถานที่เรียนที่คุณหลบซ่อนอยู่ คุณจึงได้แปลงเป็นวิญญาณตะลอนอยู่ในสถานที่เรียนนับจากนั้นมา
นอกจากนี้ เรื่องราวของผีฮาที่นาโกะยังมีอีกนานาประการมากไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น พูดว่าเธอเป็นเด็กที่ถูกแกล้ง กระทั่งตัดสินใจฆ่าตัวตายในห้องน้ำสถานศึกษา หรือจะเป็นเด็กผู้หญิงที่ถูกฆ่าจากคนโรคจิต โดนไร้มนุษยธรรมจากคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัว รวมทั้งเรื่องเล่าอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน
เรื่องราวจริงจังถึงขั้นบอกว่าแต่งงานผีของเธอมาอาศัยอยู่ในส้วมสถานศึกษาด้วย โดยพ่อ แม่ พี่สาว น้องชายของเธอต่างมีห้องน้ำ หรือที่สถิตเป็นของตนเอง ในช่วงเวลาที่ตำนานเมืองกำลังเลื่องลือไปทั่วญี่ปุ่นในสมัย 50 มันได้ถูกกล่าวถึงแล้วก็ปรับเปลี่ยนเป็นหนังสยองขวัญ ทั้งยังยังมีการเสนอในลักษณะของ Pop Culture อย่างแนวมังงะ แอ็คชัน หรือเฮฮา
ผีฮานาโกะ จากตำนานโบราณที่สร้างความกลัวไปทั่วทั้งแผ่นดินประเทศญี่ปุ่น ได้กลายมาเป็นวัตถุดิบชั้นยอด ถูกส่งจิตวิญญาณรวมทั้งความศรัทธาอันโบราณ กลั่นมันออกมาไปสื่อสนุกสนานประสิทธิภาพ ที่มีความแปลกใหม่และสนุกสนานขึ้นกว่าเดิม ได้แก่ ภาพยนตร์ Hanako of the Toilet (1998) การ์ตูน Toilet-Bound Hanako-Kun ฯลฯ แล้วก็ดูอย่างกับว่าในอนาคต ผีสุขาก็ยังคงเป็นหัวข้อ หรือเรื่องเล่าที่ชาวญี่ปุ่นพูดถึงอยู่เรื่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางของความเพลิดเพลิน
บุคิไม่จัง ผีตัวใหม่ประจำห้องน้ำสถานที่เรียน
บุคิมิจัง ผีเด็กสาวรูปร่างอ้วนที่สามารถพูดได้ว่าเป็นน้องสาวของฮาที่นาโกะซัง เธอจะโผล่มาด้วยเค้าหน้าน่าสะพรึงกลัวที่เต็มไปด้วยหนอง และมีที่อาศัยคือส้วมแบบเดียวกันฮาทุ่งนาโกะซัง จุดมุ่งหมายของเธอคือเด็กสาวที่มีหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูๆเมื่อพบจุดหมายแล้ว คุณจะพ่นหนองออกมาแล้วทำร้ายเข้าที่เข้าทางลูกตาของอีกฝ่ายโดยทันที เป็นการการสังหารอย่างใจร้ายจริงๆ
จุดเริ่มของ ฮานาโกะซัง
อย่างที่กล่าวไปว่าเรื่องราวของฮาท้องนาโกะซังเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากตำนานเมืองตั้งแต่ตอนปี 1950 ตำนานเมืองหัวข้อนี้มีสาเหตุจากคดีฆาตรกรรมที่แสนเศร้าหมอง
ในปี 1937 THE SHOCK (ปีโชวะที่ 12) ได้กำเนิดคดีฆ่าตัวตายยกครัว 5 ศพที่จังหวัดอิวาเตะ เริ่มมาจากตัวสามีนอกใจจากเมีย ทำให้เมียกลุ้มใจรวมทั้งคิดแผนฆ่ายกห้องครัว หลังจากที่ภรรยาฆ่าลูกชายคนโตกับบุตรสาวคนรอง เมื่อลูกสาวคนโตมาเจอเข้าก็วิ่งหนีออกมาจากบ้านไปหลบที่ห้องอาบน้ำของสถานที่เรียน ซึ่งก็มีผู้พบเจอพอดิบพอดี เมื่อผู้เป็นแม่มาถาม พยานคนนั้นก็เลยตอบไปว่า “อยู่ในห้องน้ำห้องในสุด” ผู้เป็นแม่จึงไปพาตัวบุตรสาวกลับบ้าน
ภายหลังกำเนิดคดีนี้ขึ้น ว่ากันว่ามีคนเห็นเด็กผู้หญิงที่มีลักษณะราวกับบุตรสาวคนโตอยู่ในห้องน้ำของโรงเรียนแห่งนี้ แถมยังสวมเสื้อผ้าเช่นเดียวกันคือเสื้อขาว กระโปรงจั๊มพ์สีแดง และก็ผมทรงกัปปะ ลูกสาวคนโตคนนี้มิได้มีชื่อว่าฮาที่นาโกะอะไร แต่เป็นชื่อที่ใช้กันมากมายในสมัยนั้น จึงถูกเอามาใส่เป็นชื่อเด็กหญิงในตำนานเมืองเรื่องนี้